นโยบายคุ้มครองส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด (ต่อไปจะเรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญในการปกป้องคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จะอธิบายเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น รวมทั้งวิธีการโอนข้อมูลออกไปยังต่างประเทศ

  1. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้สมัครงาน ผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของบริษัท ตลอดจนผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงในการสนับสนุนการดำเนินการและการปฏิบัติตามนโยบายนี้

  1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท จัดเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย
    • ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขประกันสังคม หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ อีเมล วันเดือนปีเกิด อายุ ข้อมูลภาพถ่าย สถานภาพการสมรส สถานภาพทางทหาร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เป็นต้น
    • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ อีเมล์ LINE ID WhatsApp ID WeChat ID เป็นต้น
    • ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลชบัญชีและประเภทบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ รายได้และค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
    • ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP address หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
    • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท กับท่าน

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งสิทธิที่มีตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบ และท่านต้องรับผิดชอบในการขอความยินยอมที่จำเป็นจากบุคคลเหล่านั้นให้แก่บริษัทด้วย

  1. วัตถุประสงค์ที่บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจอาศัย (1) หลักพื้นฐานตามสัญญา เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างบริษัทกับท่าน (2) ฐานภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายของบริษัท (3) ฐานผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (4) ฐานประโยชน์อันสำคัญ เพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อปฏิบัติงานอันทำเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน
  • เพื่อโต้ตอบการสอบถามหรือการร้องเรียนของท่าน และเพื่อแก้ปัญหาและข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับบริษัท
  • เพื่อให้บริการ หรือให้การช่วยเหลือตามที่ท่านร้องขอ
  • เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท
  • เพื่อการจัดโครงการหรือการประชุม การสัมมนา และการเยี่ยมชมบริษัท
  • เพื่อลงทะเบียน พิสูจน์ตัวตน ระบุ และยืนยันตัวท่าน หรือตัวตนของท่าน
  • เพื่อการป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
  • เพื่อดำเนินการสนับสนุนข้อมูลในการดำเนินการตามขั้นตอน หรือกระบวนการต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ และเพื่อการรายงาน วิเคราะห์ ทำสถิติเพื่อการบริหารจัดการ และการวางแผนธุรกิจ
  • เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างทำของ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น
  • เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่ท่านทำกับบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการขอคำแนะนำทางกฎหมาย และ/หรือคำแนะนำทางการเงิน และ/หรือเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้มีการเปิดเผยตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งศาล แนวทาง หนังสือเวียน หรือมาตรการที่บังคับใช้กับบริษัท
  • เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการรับสมัครงานและประสานงานในการคัดเลือกเข้าทำงาน
  • เพื่อพิสูจน์และตรวจสอบประวัติของท่าน โดยการพิสูจน์และตรวจสอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานให้เข้าทำงานกับบริษัท
  • เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาท การบังคับตามสัญญาของบริษัท การก่อตั้ง การใช้สิทธิเรียกร้องหรือ การต่อสู้ข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
  • เพื่อการสอบสวน การร้องเรียน และ/หรือการป้องกันอาชญากรรม หรือการทุจริต
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินการ การรักษา และการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท รวมทั้งเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทดีขึ้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีดังกล่าวเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
  1. บุคคลที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกซึ่งจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจอยู่ในหรือนอกประเทศไทย โดยท่านสามารถเข้าไปดูนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ซึ่งท่านเองก็จะได้รับการปฏิบัติภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

  • บุคคลภายนอกรายอื่น

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านไปยังผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ให้บริการภายนอก (Outsourcers) หรือคู่ค้าที่เป็น บุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ธนาคารและสถาบันการเงิน (2) ผู้ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล (3) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์     (4) บริษัทประกันภัย  (5) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทที่ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (6) ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม/การเรียนรู้และ (7) ผู้ให้บริการด้านงานเอกสาร ในการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ดีบริษัทจะให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นแก่การให้บริการของผู้ให้บริการรายนั้นเท่านั้น

  • หน่วยงานราชการ

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามกฎระเบียบ ซึ่งหมายรวมถึงหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอกอื่นใดที่บริษัทเห็นว่า มีความจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่นั้นตามกฎหมายหรือตามกฎระเบียบ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือ เพื่อความปลอดภัยส่วนตัวของบุคคลใด และเพื่อตรวจหา ป้องกัน หรือดำเนินการอันเกี่ยวกับการทุจริต ด้านความมั่นคงปลอดภัย

  • พันธมิตรทางธุรกิจ

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัททั้งในอดีต ปัจจุบัน และในภายภาคหน้าเพื่อดำเนินธุรกิจและบริการ

  • ที่ปรึกษาวิชาชีพ

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของเราที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจ และ/หรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

  • ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านไปยังบุคคลภายนอกในฐานะผู้รับโอนสิทธิของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือการร่วมทุนในกิจการร่วมค้า โดยบุคคลดังกล่าวจะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองส่วนบุคคลฉบับนี้ต่อไปเพื่อคุ้มครองข้อมูลของท่าน

  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อกำกับดูแลให้การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัย และผู้ได้รับข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสมหรือมีข้อยกเว้นอื่นตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อทำตามวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และ/หรือเพื่อปฏิบัติภาระหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามกฎระเบียบ ระยะเวลาที่บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จะขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคล บางอย่างอาจเก็บไว้นานขึ้นตามกฎหมายกำหนดให้ทำเช่นนั้น

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการข้อเข้าถึงข้อมูล: ท่านอาจใช้สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูล: ท่านอาจใช้สิทธิในการแจ้งให้ดำเนินการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจใช้สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือ ใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติ และส่งหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปให้ผู้ควบคุม ข้อมูล ส่วนบุคคลรายอื่นในกรณีที่ (ก) เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ส่งให้บริษัท (ข) หากบริษัททำการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามสัญญาของบริษัทที่ทำกับท่าน
  • สิทธิในการคัดค้าน: ท่านอาจใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย
  • สิทธิในการระงับการใช้: ท่านอาจใช้สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านอาจใช้สิทธิถอนความยินยอม เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบตามที่กำหนดไว้
  • สิทธิในการลบข้อมูล: ท่านอาจใช้สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการร้องเรียน: ท่านอาจใช้สิทธิร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  1. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและในกรณีที่หน่วยงานภายนอกเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้บริษัท หน่วยงานภายนอกดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามคำสั่งและตกลงที่จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

  1. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

บริษัทจะทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นระยะๆ เพื่อรับรองว่าบริษัทมีการจัดการ การป้องกัน และการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม

บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขข้อกำหนดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามดุลยพินิจของบริษัทฝ่ายเดียว เมื่อบริษัททำการแก้ไขข้อกำหนดตามนโยบายนี้ บริษัทจะประกาศลงบนเว็บไซต์ ซึ่งท่านสามารถเข้าชมได้ที่ https://baiyaphytopharm.com/ ทั้งนี้ บริษัทจะไม่แจ้งการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านทราบเป็นรายบุคคล

  1. รายละเอียดสำหรับติดต่อบริษัท

หากท่านมีความประสงค์จะติดต่อบริษัทเพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทได้ที่

บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด

ผู้ติดต่อ : เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

ที่อยู่ : 254 อาคารจุฬาพัฒน์ 14 ชั้น 11 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่เขต   ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

อีเมล์ :  hr@baiyaphytopharm.com

โทรศัพท์ : +66 2-115-9860

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

 

 

 

We use cookies. This website uses cookies to enhance your browsing experience on our website, to show you personalized content and targeted ads, to analyze our website traffic, and to understand where our visitors are coming from. Read more Cookies policy. You can manage your preferences by clicking Cookie settings

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save